ผู้หญิงที่กำลังยิ้มและตอบคําถาม
ผู้หญิงที่กำลังยิ้มและตอบคําถาม

FAQ: คําตอบสําหรับคําถามที่สําคัญ

SSAB มุ่งมั่นที่จะวางจําหน่ายเหล็กไร้ฟอสซิลตัวแรกของโลกในปี 2026 ภายใต้ชื่อเหล็ก SSAB Fossil-free™ ในปี 2023 SSAB ได้เปิดตัวเหล็กที่ผลิตจากเศษเหล็ก โดยปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้ชื่อ SSAB Zero™ ผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูงเหล่านี้กําลังปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซ CO2 จากเชื้อเพลิงฟอสซิล

On this page

ข้อมูลทั่วไป

Expand all

เป้าหมายหลักของ SSAB ในการพัฒนาเหล็กที่ปราศจากการปล่อยคาร์บอนคืออะไร

อุตสาหกรรมเหล็กเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยคาร์บอนที่สูงที่สุดในปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 7% ของทั้งหมดทั่วโลก แม้ว่า SSAB จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก แต่เราก็ทราบดีว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงต้องพัฒนาอีกมาก เป้าหมายของเราคือการนําอุตสาหกรรมเหล็กไปสู่อนาคตที่ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เรียนรู้เพิ่มเติมว่าอนาคตที่ไร้ฟอสซิลมีความหมายอย่างไรสําหรับคุณ

Why should I buy fossil-free steel?

An investment in fossil-free steel adds value to your business by eliminating the carbon footprint in the steel part of your value chain. Your sales contact can give you more information.

Six reasons

เหล็ก SSAB Zero™, เหล็ก SSAB Fossil-free™ และเหล็กมาตรฐานแตกต่างกันอย่างไร

ทั้งเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ เป็นเหล็กที่ปราศจากการปล่อยคาร์บอน SSAB Zero ใช้เศษเหล็กในการผลิต เหล็กไร้ฟอสซิลของ SSAB ใช้แร่เหล็กที่ผลิตโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยใช้เทคโนโลยี HYBRIT® ไม่ว่าจะผลิตจากวัตถุดิบแบบใด เท่าที่เราทราบ SSAB ก็จะมีผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำที่สุดมานำเสนอ เหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ จะมีคุณภาพและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม

What is the carbon footprint of SSAB Zero™ vs. SSAB Fossil-free™ steel vs. standard steels?

Both SSAB Zero™ and SSAB Fossil-free™ steel are emission-free steels in terms of energy use and steelmaking (Scope 1 and 2). Taking end-of-life into account, the carbon footprint of SSAB Fossil-free steel is much lower than that of SSAB Zero. Both steels have significantly lower carbon footprints than standard steel products.

The carbon emissions of SSAB Zero™ and SSAB Fossil-free™ are 0.0 kg CO2e emissions per kg/steel from energy used and steelmaking. Carbon emissions are not completely zero, but so small that we guarantee that it is less than 0.05 kg CO2e emissions per kg/steel, and thus rounded to 0.0. Typical values for iron ore-based steel produced in blast furnaces are 2.0 kg CO2e emissions per kg/steel.

The carbon emissions of SSAB Zero™ and SSAB Fossil-free™ including the raw material (Scope 1, 2 and 3 upstream) are less than 0.3 kg CO2e emissions per kg/steel, compared with the typical values of 2.4 kg CO2e emissions per kg/ steel for iron ore-based steel produced in blast furnaces.

ฉันจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหล็กของ SSAB ที่ส่งเสริมความยั่งยืนได้อย่างไร

หากคุณไม่พบข้อมูลที่คุณต้องการที่นี่ โปรด ติดต่อเรา หรือติดต่อฝ่ายขายของ SSAB ที่ดูแลคุณโดยตรง

ในฐานะลูกค้า ข้อดีและข้อเสียของเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ คืออะไร

ข้อได้เปรียบหลักของเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ คือ เหล็กนี้เป็นวัสดุที่มีการปล่อยคาร์บอนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นศูนย์ภายใต้การปฏิบัติงานของ SSAB เอง เหล็กนี้ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งหมายความว่าคุณและผู้ใช้งานปลายทาง (end user) ของคุณจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าที่ไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ข้อเสียเพียงประการเดียวของเหล็ก SSAB Zero และ SSAB Fossil-free คือต้นทุนการผลิตในช่วงแรกสูงขึ้น ทําให้แพงกว่าในการผลิต ดังนั้นจึงมีต้นทุนที่สูงกว่า

SSAB จะยังคงจำหน่ายเหล็กที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ใช้เตาสูง (blast furnace) ควบคู่ไปกับเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ หรือไม่

เราตั้งเป้าที่จะนําเสนอเหล็กที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ใช้เตาสูง (blast furnace) พร้อมๆ ไปกับเหล็กที่ผลิตโดยไม่มีการปล่อยคาร์บอน

บริษัทมีการเปลี่ยนแผนที่จะผลิตเหล็กไร้ฟอสซิล 100% หรือไม่

ไม่เลย SSAB มีกลยุทธ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่ไม่เหมือนใคร SSAB ผลิตเหล็กขึ้นจากทั้งแร่เหล็ก (ผ่านเตาสูงหรือ blast furnace) และเหล็กรีไซเคิล (ผ่านเตาอาร์คไฟฟ้า) จากความต้องการที่มีปริมาณมากของลูกค้าสำหรับเหล็กที่ไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เหล็กไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์ เราได้เพิ่มเหล็ก SSAB Zero™ ในปี 2023 เข้าไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSAB Fossil-free™ ซึ่งได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วและจะออกจําหน่ายภายในปี 2026 ไม่ว่าจะใช้วัตถุดิบใด SSAB ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ต่ำที่สุด SSAB จะยังคงใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบและจะยังคงสร้างผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% นั่นคือการหมุนเวียนที่แท้จริง

การเปิดตัว SSAB Zero™ หมายความว่าจะใช้เวลานานกว่าเดิมในการจัดส่งเหล็ก SSAB Fossil-free™ หรือไม่

ไม่ ในช่วงแรก SSAB Zero™ จะใช้สายการผลิตคนละสายกับที่ใช้ผลิตเหล็ก SSAB Fossil-free™ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในที่อื่นๆ มากขึ้น

เพราะเหตุใดเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ จึงมีราคาสูงกว่าเหล็กแบบดั้งเดิม

ทั้งเหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ฟอสซิลของ SSAB ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนต้นทุนของเหล็กที่ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ การลงทุนในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน และการเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ มาใช้ไฟฟ้าที่ไร้ฟอสซิล green hydrogen และก๊าซชีวภาพ แทน

Do you guarantee carbon footprint with a certificate?

Yes, we will publish product group-specific carbon footprints for SSAB Zero™ and SSAB Fossil-free™ steel certified by a third-party verification body.

ผู้ผลิตรายอื่นในอุตสาหกรรมเหล็กจะเริ่มผลิตเหล็กที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอนหรือไม่

ในฐานะผู้คิดค้นนวัตกรรมเหล็กไร้ฟอสซิล SSAB เชื่อมั่นว่า ในที่สุด ผู้ผลิตเหล็กทุกรายจะเปลี่ยนจากกระบวนการผลิตที่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นเทคโนโลยีที่ปราศจากฟอสซิล SSAB แบ่งปันเทคโนโลยีใหม่โดยการเผยแพร่รายงานการวิจัย จัดงานสัมมนาออนไลน์สาธารณะ เข้าร่วมการประชุมผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก และจัดกิจกรรมแบ่งปันความรู้สําหรับอุตสาหกรรมเหล็กและเหมืองแร่ ไม่ว่าผู้จัดจำหน่ายเหล็กรายอื่นๆ จะใช้เทคโนโลยีเดียวกันหรือไม่ก็ตาม เราก็หวังว่า เราจะได้สาธิตและสร้างแรงบันดาลใจให้อุตสาหกรรมเหล็กทั้งหมดเปลี่ยนมาใช้วิธีการผลิตที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

SSAB Zero™

Expand all

SSAB Zero™ คืออะไร

SSAB Zero™ เป็นเหล็กที่ผลิตจากเหล็กรีไซเคิล เหล็กนี้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบจะเป็นศูนย์ในระหว่างการผลิตเหล็ก โดยไม่มีการทำ mass balancing allocation ของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแต่อย่างใด

SSAB Zero™ ปราศจากฟอสซิลหรือไม่

SSAB Zero™ เป็นเหล็กที่แทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตเหล็กและการรีด แต่ก็ไม่ได้ปราศจากฟอสซิลไปทั้งหมดเนื่องจากวัตถุดิบเป็นเศษเหล็กเก่า เหล็กรีไซเคิลในช่วงเริ่มแรกนั้นเคยผลิตจากถ่านหินและเชื้อเพลิงฟอสซิล

เหล็ก SSAB Zero™ ผลิตอย่างไร

ขั้นตอนแรกในการผลิต SSAB Zero™ คือการป้อนเศษเหล็กลงในเตาอาร์คไฟฟ้า (EAF) ความร้อนเกิดขึ้นจาก electric arc ระหว่างอิเล็กโทรด ออกซิเจนจะถูกพ่นเข้าไปในเตา และมีการเติมปูนขาวและโฟมตะกรันเพื่อผสมกับสิ่งเจือปนต่างๆ และเกิดเป็นตะกรันขึ้น เหล็กหลอมเหลว (molten iron) จะถูกสกัดและเทออกมาผ่านทางท่อ ตลอดทั้งกระบวนการ จะใช้เฉพาะไฟฟ้าและเชื้อเพลิงที่ปราศจากฟอสซิลเท่านั้น ส่งผลให้ได้เหล็ก SSAB Zero™ เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้าย

SSAB Zero™ ใกล้เคียงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์มากแค่ไหน

SSAB Zero™ มีการปล่อยก๊าซ CO2 0.0 กก. ต่อ กก./เหล็ก จากพลังงานที่ใช้และการผลิตเหล็ก (ขอบเขตที่ 1 และ 2) ถึงการปล่อยคาร์บอนจะไม่เป็นศูนย์โดยสิ้นเชิง แต่ก็มีปริมาณที่น้อยจนเรารับประกันได้ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) จะน้อยกว่า 0.05 กก. ต่อ กก./เหล็ก ดังนั้นจึงปัดเศษเป็น 0.0 Typical values สําหรับเหล็กที่ผลิตจากแร่เหล็กโดยใช้เตาสูง (blast furnace) คือการปล่อย CO2e 2.0 กก. ต่อ กก./เหล็ก เมื่อรวมกับวัตถุดิบ (ขอบเขต 1, 2 และ 3 ต้นน้ำ) การปล่อยคาร์บอนนั้นน้อยกว่า 0.3 กก. CO2e เมื่อเทียบกับค่า typical values ที่การปล่อย CO2e 2.4 กก. ต่อ กก./เหล็ก สําหรับเหล็กที่ผลิตจากแร่เหล็กโดยใช้เตาสูง (blast furnace)

SSAB Zero™ จะวางจําหน่ายในตลาดเมื่อใด

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล็ก SSAB Zero™ ครั้งแรกจะเริ่มต้นในปี 2023 และลําดับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นไปตามคําขอของลูกค้า นี่คือความทะเยอทะยานของ SSAB ที่จะมีเกรดเหล็กให้เลือกหลากหลาย พนักงานขายที่ดูแลคุณจะสามารถให้คําปรึกษาที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการ

ฉันจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SSAB Zero™ ได้อย่างไร

หากคุณไม่พบข้อมูลที่คุณต้องการที่นี่ โปรด ติดต่อเรา หรือติดต่อฝ่ายขายของ SSAB ที่ดูแลคุณโดยตรง

ในฐานะลูกค้า ข้อดีและข้อเสียของ SSAB Zero™ คืออะไร

ข้อได้เปรียบหลักของ SSAB Zero™ คือ เหล็กนี้มีการปล่อยคาร์บอนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแทบจะเป็นศูนย์ภายใต้การปฏิบัติงานของ SSAB เอง เหล็กนี้จะไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งหมายความว่าคุณและผู้ใช้งานปลายทาง (end user) ของคุณจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าที่ไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ข้อเสียเพียงประการเดียวของเหล็ก SSAB Zero คือต้นทุนการผลิตในช่วงแรกสูงขึ้น ทําให้แพงกว่าในการผลิต ดังนั้นจึงมีต้นทุนสูงกว่า

วัตถุประสงค์หลักของ SSAB สําหรับ SSAB Zero™ คืออะไร

ตามวัตถุประสงค์ของเราที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กสู่อนาคตที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเนื่องจากเราเห็นปริมาณความต้องการของลูกค้าจำนวนมากที่มีต่อเหล็กไร้ฟอสซิล SSAB จึงตัดสินใจพัฒนาเหล็กซึ่งผลิตจากเศษเหล็กและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบจะเป็นศูนย์ด้วยเช่นกัน วัตถุประสงค์คือการนําเสนอเหล็กที่แทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่ากระบวนการผลิตเหล็กจะเป็นอย่างไร SSAB ก็จะแสดงทางเลือกที่ดีกว่าและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ต่ำกว่าใคร SSAB Zero™ จากเศษเหล็ก และ SSAB Fossil-free™ จากแร่เหล็กที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

เรียนรู้เพิ่มเติมว่าอนาคตที่ไร้ฟอสซิลมีความหมายอย่างไรสําหรับคุณ

เพราะเหตุใดเหล็กทั้งหมดจึงไม่ได้ผลิตจากเศษเหล็ก

SSAB ผลิตเหล็กสองประเภทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบจะเป็นศูนย์: เหล็ก SSAB Zero™ และ SSAB Fossil-free™ SSAB Zero ผลิตจากเหล็กรีไซเคิล เหล็กไร้ฟอสซิลของ SSAB ผลิตจากแร่เหล็กโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เหล็กรีไซเคิลเป็นทรัพยากรที่มีจํากัด เหล็กที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งสองประเภทของ SSAB ทำให้มีเหล็กที่สามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กได้อีกเนื่องจากสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% นั่นคือการหมุนเวียนที่แท้จริง

คุณจะรับประกันได้อย่างไรว่าคุณใช้ไฟฟ้าที่ปราศจากฟอสซิล และไม่ใช้ไฟฟ้าที่มีที่มาจากฟอสซิลสําหรับ SSAB Zero™

SSAB ได้นําระบบการรับประกันแหล่งกําเนิดภายในมาใช้เพื่อจัดการและรับรองแหล่งที่มาที่ถูกต้องและการใช้ไฟฟ้าที่ปราศจากฟอสซิล เนื่องจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าจริงเชื่อมโยงกับการผลิต SSAB Zero™ ระบบนี้ได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานตรวจสอบอิสระภายนอก

ทําไมบริษัทจึงเปิดตัว SSAB Zero™ ในเมื่อมีเหล็กไร้ฟอสซิลอยู่แล้ว

SSAB Zero™ ไม่ใช่สิ่งที่จะมาทดแทนเหล็ก SSAB Fossil-free™ แต่เป็นสิ่งที่จะมาเสริม SSAB ผลิตเหล็กขึ้นจากทั้งแร่เหล็ก (ผ่านเตาสูงหรือ blast furnace) และเศษเหล็ก (ผ่านเตาอาร์คไฟฟ้า) เหล็ก Fossil-free™ ของ SSAB ใช้เทคโนโลยี HYBRIT® ที่จดสิทธิบัตรแล้ว โดยใช้การลดออกซิเจนในแร่เหล็ก (Direct Reduction) ด้วยการใช้ไฮโดรเจนที่ไร้ฟอสซิล ซึ่งจะแทนที่การผลิตโดยการถลุงแร่เหล็กด้วยเตาสูง (blast furnace) จากปริมาณความต้องการเหล็กไร้ฟอสซิลของลูกค้าที่มีจำนวนมาก SSAB จึงตัดสินใจพัฒนาเหล็กซึ่งผลิตจากเศษเหล็กและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบจะเป็นศูนย์ด้วย วัตถุประสงค์คือการนําเสนอเหล็กที่แทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเลย ไม่ว่าจะใช้กระบวนการผลิตแบบใด SSAB ก็จะนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าเจ้าอื่นๆ

SSAB Zero™ จะมาแทนที่เหล็ก SSAB Fossil-free™ หรือไม่

ไม่ เมื่อมีทั้งสองผลิตภัณฑ์ จะทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เหล็กที่แทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเลยได้ SSAB Zero™ ผลิตจากเหล็กรีไซเคิลและเหล็ก SSAB Fossil-free™ ผลิตจากแร่เหล็กที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เป้าหมายคือการเปิดตัวเหล็ก SSAB Fossil-free™ ในปี 2026 การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล็ก Zero™ ครั้งแรกจะเริ่มต้นในปี 2023 และลําดับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จะกําหนดตามคําขอของลูกค้า นี่คือความทะเยอทะยานของ SSAB ที่จะมีเกรดเหล็กให้เลือกหลากหลาย พนักงานขายที่ดูแลคุณจะสามารถให้คําปรึกษาที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการ

SSAB Zero™ มีคุณสมบัติที่ดีกว่าเหล็กมาตรฐานของ SSAB หรือไม่

คุณภาพและคุณสมบัติของเหล็ก SSAB Zero™ จะเหมือนกับเหล็กมาตรฐานของ SSAB คุณสมบัติของเหล็กของ SSAB ในปัจจุบันเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตเหล็ก กระบวนการรีด และกระบวนการอบชุบด้วยความร้อน ซึ่งจะยังคงเป็นเช่นเดิม ความแตกต่างเพียงประการเดียวในกระบวนการคือ พลังงานที่ใช้จะเป็นไฟฟ้าที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่ปราศจากฟอสซิลเท่านั้น

ทําไม SSAB Zero™ จึงมีราคาสูงกว่าเหล็กมาตรฐาน

เหล็ก SSAB Zero™ เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ฟอสซิลของ SSAB ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนต้นทุนของเหล็กที่ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ การลงทุนในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน และการเปลี่ยนจากก๊าซธรรมชาติ มาใช้ไฟฟ้าที่ไร้ฟอสซิล และก๊าซชีวภาพแทน

เหล็ก SSAB Zero™ มีราคาเท่าไร

ต้นทุนการผลิตของเหล็ก SSAB Zero™ สูงกว่าเหล็กในปัจจุบัน ทำให้มีราคาที่สูงกว่า สําหรับราคาที่แน่นอน โปรดติดต่อฝ่ายขายของ SSAB ที่ดูแลคุณอยู่

ฉันสามารถซื้อเหล็กที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่าง SSAB Zero™ จากผู้ผลิตเหล็กรายอื่นได้หรือไม่

เท่าที่เราทราบ SSAB เป็นผู้ผลิตเหล็กเพียงรายเดียวที่นําเสนอเหล็กซึ่งแทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผลิตจากเศษเหล็กด้วยไฟฟ้าและก๊าซชีวภาพที่ปราศจากฟอสซิล ไม่มีการชดเชยการปล่อยคาร์บอน (carbon emission offsetting) และไม่มีการทำ mass balance allocation ของผลิตภัณฑ์

เหล็ก SSAB Fossil-free™

Expand all

เหล็กไร้ฟอสซิลคืออะไร

ไร้ฟอสซิล หมายถึง ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลหรือวัตถุดิบที่มาจากฟอสซิล เหล็กไร้ฟอสซิลนั้นได้ถูกผลิตขึ้นโดยปราศจากการปล่อยคาร์บอนและโดยการใช้แหล่งพลังงานที่ปราศจากฟอสซิล ในอนาคต แร่เหล็กทั้งหมดที่ใช้ในเหล็ก SSAB Fossil-free™ จะมาจากการทําเหมืองแร่ที่ปราศจากฟอสซิล

เหล็ก SSAB Fossil-free™ ผลิตอย่างไร

ขั้นตอนแรกในการผลิตเหล็ก SSAB Fossil-free™ คือการ reduce สินแร่เหล็กให้เป็นเหล็กโดยการกําจัดออกซิเจน กระบวนการนี้แต่เดิมมักจะทําโดยใช้ถ่านหินและถ่านโค้กในกระบวนการถลุงด้วยเตาสูง (blast furnace) อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ขั้นตอนนี้จะเปลี่ยนมาใช้ก๊าซไฮโดรเจนผ่านกระบวนการ HYBRIT แทน กระแสไฟฟ้าที่ปราศจากฟอสซิลได้นำมาใช้เพื่อผลิตไฮโดรเจนจากน้ำผ่านกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (electrolysis) ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้ของกระบวนการนี้คือน้ำ ไม่ใช่ CO2 ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการ HYBRIT คือเหล็กแข็ง (เหล็กพรุน หรือ sponge iron) ซึ่งจะนำไปหลอมในเตาอาร์คไฟฟ้าต่อไป ตลอดทั้งกระบวนการ จะใช้เฉพาะไฟฟ้าและเชื้อเพลิงที่ปราศจากฟอสซิลเท่านั้น ส่งผลให้ได้เหล็กไร้ฟอสซิลเป็นผลิตภัณฑ์สุดท้าย

ผลิตภัณฑ์และขนาดเหล็กใดของ SSAB ที่จะมีจำหน่ายเป็นเหล็กไร้ฟอสซิล

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล็ก SSAB Fossil-free™ ครั้งแรกจะเริ่มต้นในปี 2026 และลําดับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จะกําหนดตามคําขอของลูกค้า นี่คือความทะเยอทะยานของ SSAB ที่จะจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กทั้งหมดเป็นเหล็กไร้ฟอสซิล พนักงานขายที่ดูแลคุณจะสามารถให้คําปรึกษาที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการ

เหล็ก SSAB Fossil-free™ มีคุณสมบัติดีกว่าเหล็กแบบดั้งเดิมของ SSAB หรือไม่

เหล็ก SSAB Fossil-free™ จะมีคุณภาพและคุณสมบัติเหมือนกับเหล็กมาตรฐานของ SSAB คุณสมบัติของเหล็กของ SSAB ในปัจจุบันเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตเหล็ก กระบวนการรีด และกระบวนการอบชุบด้วยความร้อน ซึ่งจะยังคงเป็นเช่นเดิม ความแตกต่างเพียงประการเดียวในกระบวนการคือ พลังงานที่ใช้จะเป็นไฟฟ้าที่ปราศจากฟอสซิลและเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่ปราศจากฟอสซิลเท่านั้น

ทําไมเหล็ก Fossil-free™ ของ SSAB จึงจะมีราคาสูงกว่าเหล็กมาตรฐานของ SSAB

เหล็ก SSAB Fossil-free™ เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของ SSAB ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนต้นทุนของเหล็กไร้ฟอสซิลคือการลงทุนในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินมาใช้ไฟฟ้าและไฮโดรเจนที่ปราศจากฟอสซิล เปลี่ยนจากก๊าซธรรมชาติมาใช้ก๊าซชีวภาพ เปลี่ยนจากก้อนแร่เหล็กมาเป็นเหล็กพรุน

ฉันจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหล็ก SSAB Fossil-free™ ได้อย่างไร

หากคุณไม่พบข้อมูลที่คุณต้องการที่นี่ โปรดติดต่อเรา หรือติดต่อฝ่ายขายของ SSAB ที่ดูแลคุณโดยตรง

เราจะทราบได้อย่างไรว่าเหล็กของ SSAB ปราศจากฟอสซิลจริงๆ

SSAB ได้ลงทุนไปจำนวนมากกับเหล็กไร้ฟอสซิล และส่วนหนึ่งของการลงทุนนี้คือ จะบันทึกกระบวนการผลิตไว้ในฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (Environmental Product Declaration: EPD) EPD ได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอกและเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดของยุโรปและสากล

ผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมใดของลูกค้าที่สามารถใช้เหล็กไร้ฟอสซิลได้

เหล็กไร้ฟอสซิลจะมีคุณสมบัติและคุณภาพเหมือนกับเหล็กที่ผลิตด้วยวิธีดั้งเดิม ดังนั้น เหล็กนี้ก็จะทํางานในลักษณะเดียวกันได้ในการใช้งานทางอุตสาหกรรมทั้งหมด เหล็กไร้ฟอสซิลจะมีคุณภาพได้ตามมาตรฐานปัจจุบันของเหล็กและเหมาะสําหรับการใช้งานเช่นเดียวกับเหล็กที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

เป้าหมายหลักของ SSAB ในการพัฒนาเหล็กที่ปราศจากการปล่อยคาร์บอนคืออะไร

อุตสาหกรรมเหล็กเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยคาร์บอนที่สูงที่สุดในปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 7% ของทั้งหมดทั่วโลก แม้ว่า SSAB จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก แต่เราก็ทราบดีว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงต้องพัฒนาอีกมาก เป้าหมายของเราคือการนําอุตสาหกรรมเหล็กไปสู่อนาคตที่ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เรียนรู้เพิ่มเติมว่าอนาคตที่ไร้ฟอสซิลมีความหมายอย่างไรสําหรับคุณ

บริษัทมีการเปลี่ยนแผนที่จะผลิตเหล็กไร้ฟอสซิล 100% หรือไม่

ไม่เลย SSAB มีกลยุทธ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่ไม่เหมือนใคร SSAB ผลิตเหล็กขึ้นจากทั้งแร่เหล็ก (ผ่านเตาสูงหรือ blast furnace) และเหล็กรีไซเคิล (ผ่านเตาอาร์คไฟฟ้า) จากความต้องการที่มีปริมาณมากของลูกค้าสำหรับเหล็กที่ไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เหล็กไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์ เราได้เพิ่มเหล็ก SSAB Zero™ ในปี 2023 เข้าไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSAB Fossil-free™ ซึ่งได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วและจะออกจําหน่ายภายในปี 2026 ไม่ว่าจะใช้วัตถุดิบใด SSAB ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ต่ำที่สุด SSAB จะยังคงใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบและจะยังคงสร้างผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% นั่นคือการหมุนเวียนที่แท้จริง

ในฐานะลูกค้า ข้อดีและข้อเสียของเหล็ก SSAB Fossil-free™ คืออะไร

ข้อได้เปรียบหลักของเหล็ก Fossil-free™ ของ SSAB คือ เป็นวัสดุที่มีการปล่อยคาร์บอนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นศูนย์ภายใต้การปฏิบัติงานของ SSAB เอง เหล็กนี้ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งหมายความว่าคุณและผู้ใช้งานปลายทาง (end user) ของคุณจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าที่ไร้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ข้อเสียเพียงประการเดียวของเหล็กไร้ฟอสซิลคือต้นทุนการผลิตในช่วงแรกสูงขึ้น ทําให้แพงกว่าในการผลิต ดังนั้นจึงมีต้นทุนสูงกว่า

กระบวนการทําเหมืองแร่เหล็กเป็นกระบวนการที่ปราศจากฟอสซิลหรือไม่

ใช่ แร่เหล็กทั้งหมดที่ใช้ในเหล็ก SSAB Fossil-free™ จะมาจากการทําเหมืองแร่ที่ปราศจากฟอสซิล

โรงงานทั้งหมดที่ SSAB มีในตอนนี้ จะผลิตเหล็กไร้ฟอสซิลหรือไม่

ใช่ นั่นคือเป้าหมายของเรา


เหล็ก SSAB Fossil-free™ มีราคาเท่าไร

ต้นทุนการผลิตเหล็ก SSAB Fossil-free™ สูงกว่าเหล็กมาตรฐาน ทำให้มีราคาที่สูงกว่า สําหรับราคาที่แน่นอน โปรดติดต่อฝ่ายขายของ SSAB ที่ดูแลคุณอยู่

ฉันสามารถซื้อเหล็กไร้ฟอสซิลจากผู้ผลิตเหล็กรายอื่นได้หรือไม่

ปัจจุบัน SSAB เป็นผู้ผลิตเหล็กรายเดียวที่มุ่งมั่นและลงทุนในการผลิตแบบปราศจากฟอสซิล SSAB จะปล่อยให้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงอยู่ในดินเหมือนเดิม ด้วยการใช้เทคโนโลยีเหล็กไร้ฟอสซิลที่เรียกว่า HYBRIT และกําจัดร่องรอยคาร์บอนออกจากกระบวนการผลิตเหล็ก